พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019–20

From Everything Wiki
Jump to navigation Jump to search
0.00
(0 votes)

แม่แบบ:กล่องข้อมูล ฤดูกาลลีกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019–20 (แม่แบบ:Lang-en) เป็นการแข่งขันพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลที่ 28 นับแต่เริ่มจัดการแข่งขันครั้งแรกในปี ค.ศ. 1992 โดยแมนเชสเตอร์ซิตี คือทีมที่ป้องกันแชมป์ในฤดูกาลนี้ หลังชนะเลิศสองสมัยติดต่อกันและชนะเลิศสามรายการเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล เป็นทีมชนะเลิศ โดยเป็นการชนะเลิศลีกสูงสุดสมัยที่ 19 หลังพวกเขาชนะเลิศลีกสูงสุดครั้งสุดท้ายเมื่อปี ค.ศ. 1990 และยังเป็นการชนะเลิศครั้งแรกในยุคพรีเมียร์ลีก

ฤดูกาลมีการหยุดการแข่งขันชั่วคราวเป็นเวลามากกว่าสามเดือน หลังมีการตัดสินจากพรีเมียร์ลีกเมื่อวันที่ 13 มีนาคม ค.ศ. 2020 หลังพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาในผู้เล่นและทีมงานเนื่องจากเกิดการระบาดทั่วของไวรัสโคโรนา ในตอนแรกนั้นจะกลับมาแข่งขันในวันที่ 4 เมษายน แต่ก็ได้ขยายไปช่วงกลางมิถุนายน[1] การแข่งขันกลับมาในวันที่ 17 มิถุนายน และเริ่มการแข่งขันเต็มรูปแบบในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์วันที่ 19–21 มิถุนายน[2]

ฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลแรกที่ใช้ระบบวีเออาร์[3] มีการเปลี่ยนกฏกติกาใหม่สำหรับการส่งบอลย้อนหลัง, จุดโทษ, แฮนด์บอลและการเปลี่ยนตัว[4]

สรุป

พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้เป็นการเริ่มต้นสัญญาฉบับใหม่ของการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ระยะเวลาสามปี โดยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญก็คือ การแข่งขันจำนวนแปดนัดจะถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์เวลา 19:45 น. (เวลาท้องถิ่น) วันเสาร์ตลอดฤดูกาลโดย สกายสปอร์ตส[5] นอกจากนี้ แอมะซอน ยังได้ถ่ายทอดสดจำนวนสองนัดในเดือนธันวาคม รวมถึง เมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี ซึ่งครั้งแรกที่นัดดังกล่าวได้ถ่ายทอดสดทั่วประเทศ[6] ส่วนประเทศไทยนั้น ทรูวิชั่นส์ กลับมาเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง โดยเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี[7]

เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ค.ศ. 2019 เลสเตอร์ซิตี ทำลายสถิติของพรีเมียร์ลีกและลีกสูงสุดของอังกฤษ โดยทำสถิติเป็นทีมเยือนที่ชนะในลีกด้วยจำนวนประตูเยอะที่สุดและเทียบเท่าสถิติชนะในพรีเมียร์ลีกด้วยจำนวนประตูเยอะที่สุด เมื่อพวกเขาเอาชนะ เซาแทมป์ตัน 9–0 ที่ เซนต์แมรีส์สเตเดียม[8]

เมื่อวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 2020 ในนัดการแข่งขันที่ แมนเชสเตอร์ซิตี ชนะ แอสตันวิลลา ด้วยผลประตูรวม 6–1 เซร์ฆิโอ อาเกวโร ได้ทำลายสถิติของ ตีแยรี อ็องรี เป็นผู้เล่นต่างประเทศที่ทำประตูสูงสุด[9] และเขายังได้ทำลายสถิติเป็นผู้เล่นที่ทำแฮต-ทริกส์มากที่สุด (12) แทนที่ของ แอลัน เชียเรอร์[10]

พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลแรกที่มีการพักช่วงกลางฤดูกาลในเดือนกุมภาพันธ์ มีสามนัดจากสิบนัดแข่งขันในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์วันที่ 8–9 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 อีกหกนัดแข่งขันในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์วันที่ 14–17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 และนัดที่สิบ นัดที่แมนเชสเตอร์ซิตีพบกับ เวสต์แฮมยูไนเต็ด มีการเลื่อนการแข่งขันจากวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 ไปวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 เนื่องจากพายุคีรา นัดการแข่งขันในวันเดียวกันนั้นแข่งในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน เพื่อไม่ให้การถ่ายทอดสดทับซ้อนกัน[11]

ในระหว่างฤดูกาล ลิเวอร์พูล ทำสถิติเป็นทีมที่ชนะติดต่อกันมากที่สุด 18 นัด[12] ก่อนจะแพ้ให้กับ วอตฟอร์ด เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 ปัจจุบัน ลิเวอร์พูลกำลังทำสถิติชนะในบ้านติดต่อกัน 23 นัด[13] และทำสถิตินำห่าง 23 คะแนนในตารางเมื่อทุกทีมแข่งเท่ากัน (สถิติ ณ วันที่ 24 มิถุนายน ค.ศ. 2020)[14][15]

เพื่อการแสดงออกความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันหลัง การเสียชีวิตของจอร์จ ฟลอยด์ ชื่อของผู้เล่นบนหลังเสื้อของพวกเขานั้นแทนที่ด้วย 'แบล็กไลฟส์แมตเทอร์' ใน 12 นัดแรกของการเริ่มต้นฤดูกาลอีกครั้ง พรีเมียร์ลีกยังให้การสนับสนุนสำหรับผู้เล่นคนใดที่ 'คุกเข่า' ก่อนหรือระหว่างการแข่งขัน[16]

เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ. 2020 แมนเชสเตอร์ซิตี แพ้ต่อ เชลซี ด้วยผลประตูรวม 2–1 ที่สนามกีฬาสแตมฟอร์ดบริดจ์ ทำให้ ลิเวอร์พูล ชนะเลิศลีกสูงสุดครั้งแรกในรอบ 30 ปี และชนะเลิศพรีเมียร์ลีกครั้งแรก[17] ลิเวอร์พูลยังสร้างสถิติเป็นทีมที่ชนะเลิศลีกสูงสุดโดยที่ยังเหลือเกมการแข่งขันมากที่สุด (เหลือเจ็ดเกมก่อนจบฤดูกาล) และ เป็นทีมที่ชนะเลิศลีกสูงสุดช้าที่สุด (เป็นทีมเดียวที่ชนะเลิศลีกสูงสุดในเดือนมิถุนายน)[18] ในเกมการแข่งขันถัดมา แมนเชสเตอร์ซิตีและแอสตันวิลลา ได้ตั้งแถวเกียรติยศปรบมือให้แก่ลิเวอร์พูลที่ สนามกีฬาอัลติฮัดและแอนฟีลด์[19]

เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ค.ศ. 2020 นอริชซิตีเป็นทีมแรกที่ตกชั้นไป แชมเปียนชิป หลังแพ้เวสต์แฮมยูไนเต็ดที่สนามแคร์โรว์โรดด้วยผลประตูรวม 0–4 ขณะที่ยังเหลือเกมการแข่งขันอีกสามนัด[20]

ผลกระทบจากการระบาดทั่วของไวรัสโคโรนา

ตั้งแต่เดือนมีนาคม พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ได้รับผลกกระทบจากการระบาดทั่วของไวรัสโคโรนา[21] โดยเมื่อวันที่ 10 มีนาคม นัดการแข่งขันระหว่าง แมนเชสเตอร์ซิตี พบกับ อาร์เซนอล ได้ถูกเลื่อนออกไปก่อน ซึ่งแต่เดิมนั้นมีกำหนดแข่งในวันถัดไป หลังจากมีการเลื่อนมาก่อนหน้านี้เนื่องจาก แมนเชสเตอร์ซิตี ต้องลงแข่งในรายการ อีเอฟแอลคัพ 2020 นัดชิงชนะเลิศ สาเหตุมาจากผู้เล่นจำนวนหนึ่งของอาร์เซนอลได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดกับ เอวานเกโลส มารินาคิส เจ้าของ โอลิมเบียโกส ซึ่งเขาติดเชื้อไวรัสโคโรนา หลังทดสอบการตรวจเลือดแล้วมีผลเป็นบวก โดยทั้งสองทีมได้พบกันในรายการยูโรปาลีกเมื่อ 13 วันก่อน[22] นี่เป็นฤดูกาลแรกของแข่งขันฟุตบอลอังกฤษ ที่มีการหยุดการแข่งขัน ตั้งแต่ ฤดูกาล 1939–40 ซึ่งในฤดูกาลดังกล่าวถูกยกเลิกหลังแข่งขันไปแค่สามนัด เนื่องจากเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง[23]

เมื่อวันที่ 12 มีนาคม มีการเปิดเผยว่าผู้เล่นของเลสเตอร์ซิตีสามคนนั้นถูกกักตัว[24] แมนเชสเตอร์ซิตีประกาศว่า แบ็งฌาแม็ง แมนดี กองหลังของทีมถูกกักตัวหลังสมาชิกในครอบครัวแสดงอาการป่วยจากไวรัส[25] ต่อมาในตอนเย็น มีการยืนยันว่า มิเกล อาร์เตตา ผู้จัดการทีมของอาร์เซนอล ติดเชื้อไวรัสโคโรนาหลังตรวจเลือดแล้วมีผลเป็นบวก[26] ทำให้การแข่งขันระหว่าง ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน กับ อาร์เซนอล ในวันที่ 14 มีนาคม ที่อาแม็กซ์สเตเดียม ถูกเลื่อนออกไปก่อน[27] เมื่อวันที่ 13 มีนาคม เชลซี ประกาศว่า แคลลัม ฮัดสัน-โอดอย ปีกของทีม ติดเชื้อไวรัสโคโรนาหลังตรวจเลือดแล้วมีผลเป็นบวก[28]

เมื่อวันที่ 13 มีนาคม การประชุมฉุกเฉินระหว่าง พรีเมียร์ลีก, สมาคมฟุตบอล (หรือ เอฟเอ), อิงกลิชฟุตบอลลีกและเอฟเอวีเมนส์ซูเปอร์ลีก หลังการประชุม มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ระงับการแข่งขันฟุตบอลอาชีพในอังกฤษ อย่างน้อยจนถึงวันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 2020[29] เมื่อวันที่ 19 มีนาคม การระงับได้ถูกขยายออกไปอย่างน้อยจนถึงวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 2020[30] ในเวลาเดียวกัน สมาคมฟุตบอล ตกลงขยายการแข่งขันในฤดูกาลนี้ออกไปอย่างไม่มีกำหนด เลยกำหนดเดิมคือวันที่ 1 มิถุนายน ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2020 แมตต์ แฮนคอก เลขาธิการแห่งรัฐเพื่อการดูแลสุขภาพและสังคม เรียกร้องให้ผู้เล่นในพรีเมียร์ลีกลดค่าจ้างของตัวเองระหว่างการระบาดทั่ว[31] สมาคมนักฟุตบอลอาชีพ ปฏิเสธข้อเรียกร้องดังกล่าว เพราะพวกเขารู้สึกว่าจะทำให้มีผลกระทบต่อ กระทรวงการคลัง ด้วยการสูญเสียรายได้จากภาษีเงินได้[32] หลายสโมสร รวมไปถึง วอตฟอร์ด, เซาแทมป์ตันและเวสต์แฮมยูไนเต็ด ตกลงที่ชะลอการจ่ายค่าจ้างให้กับผู้เล่น[33] ต่อมาในเดือนเมษายน พรีเมียร์ลีกได้ทำแผน เรียกว่า โปรเจก รีสตาร์ต เป้าหมายคือแข่งขันนัดที่เหลือจำนวน 92 นัดในช่วงระยะเวลาหกสัปดาห์ ณ สนามกลางที่ได้รับการอนุมัติ[34] วอตฟอร์ด, แอสตันวิลลาและไบรตัน เป็นทีมที่อยู่ใกล้ท้ายตาราง ให้ความคิดเห็นว่ามันไม่ยุติธรรมที่จะให้แข่งขันในสนามกลาง ในขณะที่มีสถานะที่เสี่ยงจะตกชั้น แต่จะได้เปรียบถ้าไม่มีการตกชั้น[35][36] ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2020 ผู้เล่นอนุญาตให้ฝึกซ้อมเป็นกลุ่ม เพื่อเตรียมตัวการกลับมาแข่งขันอีกครั้งของลีก พวกเขาได้รับอนุญาตให้อยู่ในกลุ่มได้ไม่เกินห้าคน พร้อมกับให้ช่วงเวลาในการฝึกซ้อมของแต่ละผู้เล่นไม่เกิน 75 นาที และต้องปฏิบัติตามกฏการเว้นระยะห่างทางสังคมในช่วงเวลาการฝึกซ้อม[37] เมื่อวันที่ 17 และ 18 พฤษภาคม ผู้เล่นและทีมงานทั้งหมดถูกตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 มีหกคนมีผลตรวจเลือดเป็นบวก รวมไปถึง เอเดรียน มาริอัปปา ผู้เล่นของวอตฟอร์ดและ เอียน โวน ผู้ช่วยผู้จัดการทีมเบิร์นลีย์[38][39][40] ต่อมาในเดือนพฤษภาคม แอรอน แรมสเดล ผู้เล่นของบอร์นมัท มีผลตรวจเลือดเป็นบวก[41]

ผู้เล่นจำนวนหนึ่ง รวมไปถึง ราฮีม สเตอร์ลิงกับเซร์ฆิโอ อาเกวโรของแมนเชสเตอร์ซิตี และแอรอน เครสเวลล์ของเวสต์แฮมยูไนเต็ด แสดงความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยในแคมเปญการเริ่มการแข่งขันใหม่อีกครั้ง แดนนี โรสของนิวคาสเซิลยูไนเต็ดเรียกการตัดสินใจที่จะเริ่มใหม่ว่าเป็น "เรื่องตลก"[42][43] ทรอย ดีนีย์ของวอตฟอร์ดกล่าวว่า เขาจะไม่กลับมาซ้อมเพราะกลัวจะกระทบต่อสุขภาพของครอบครัวของเขา[44] อึงโกโล ก็องเตของเชลซีพลาดการซ้อมเพราะกังวลด้านความปลอดภัย[45] เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม สโมสรในพรีเมียร์ลีก ลงมติเป็นเอกฉันท์ให้สามารถซ้อมโดยมีการสัมผัสตัวได้[46] ไทโรน มิงส์ของแอสตันวิลลา กล่าวว่า เหล่าผู้เล่นไม่เคยได้รับการปรึกษาเกี่ยวกับการเริ่มกลับมาแข่งขันใหม่เลยและเพราะว่ามัน "ขับเคลื่อนด้วยเงิน"[47]

เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม สโมสรในพรีเมียร์ลีกตกลงที่จะกลับมาแข่งขันต่อในวันที่ 17 มิถุนายน[48] เริ่มต้นด้วยนัดตกค้างสองเกม ได้แก่ แมนเชสเตอร์ซิตี พบกับ อาร์เซนอล และ แอสตันวิลลา พบกับ เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด[49] แล้วเริ่มการแข่งขันเต็มรูปแบบในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์วันที่ 19–21 มิถุนายน ซึ่งหยุดไปตั้งแต่เดือนมีนาคม ในช่วงแรกการแข่งขันนัดที่เหลือนั้นจะแข่งโดยไม่มีผู้ชมในสนาม และส่วนหนึ่งของการกลับมาแข่งขันต่อ พรีเมียร์ลีกยังได้อนุญาตให้ บีบีซีสปอร์ต ถ่ายทอดสดฟุตบอลจำนวนสี่นัด เป็นครั้งแรกที่ช่องดังกล่าวถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ตั้งแต่ก่อตั้งลีกเมื่อปี ค.ศ. 1992 ซึ่ง[50] นอกจากนี้ ช่องฟรีทีวี พิก (มี สกาย เป็นเจ้าของ) จะถ่ายทอดสด 25 นัดที่เหลือ[51] แอมะซอนไพร์ม ยังได้จัดสรรการถ่ายทอดสดฟุตบอลจำนวนสี่นัดซึ่งสามารถชมได้โดยที่ไม่ต้องจ่ายค่าสมาชิก[52]

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พรีเมียร์ลีกประกาศอนุญาตให้ทีมใส่ชื่อผู้เล่นตัวสำรองได้ถึงเก้าคนต่อนัด จากปกติเจ็ดคน และสามารถเปลี่ยนตัวได้ห้าคนจากเดิมสามคน[53]

ดีลอยต์ บริษัทผู้ให้บริการทางการเงิน ประมาณการว่าสโมสรในพรีเมียร์ลีกจะสูญเสียรายได้จำนวน 1 พันล้านปอนด์ในฤดูกาล 2019–20 และอีก 500 ล้านปอนด์ สำหรับการจ่ายค่าชดเชยให้กับผู้ถ่ายทอดสดและรายได้จากในวันแข่งขัน[54]

มีการตรวจหาเชื้อไวรัสในวันที่ 11 และ 12 มิถุนายน พบผู้มีผลตรวจเลือดเป็นบวกสองคนโดยไม่เปิดเผยชื่อ โดนคนหนึ่งเป็นผู้เล่นจากนอริชซิตีซึ่งจำเป็นต้องกักตัว ทำให้ไม่สามารถลงแข่งขันได้ พบผู้มีผลตรวจเลือดเป็นบวกจำนวน 16 คน จากการตรวจเลือดทั้งหมด 8,687 เคส[55]

ก่อนการกลับมาแข่งขันกันอีกครั้ง พรีเมียร์ลีกได้จัดทำแนวทางที่จะต้องปฏิบัติตามในทุกนัด โดยทุกนัดจะต้องแข่งขันโดยไม่มีผู้ชม จำกัดเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องให้อยู่ในสนามได้ไม่เกิน 300 คน ทุกสนามถูกแบ่งออกเป็นสามโซน ได้แก่ โซนสีแดง (ในสนามและเขตเทคนิค), โซนสีเหลือง (อัฒจันทร์) และโซนสีเขียว (ด้านนอกสนาม) โดยมีข้อจำกัดว่าใครได้รับอนุญาตให้เข้าโซนไหนได้บ้าง การตั้งแถวบนสนามของผู้เล่นและทีมงานต้องยืนสลับฟันปลาและไม่มีการจับมือก่อนแข่งขัน มีการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อบนธงของมุมธง, เสาประตู, ป้ายเปลี่ยนตัวและลูกบอล ก่อนและหลังการแข่งขันทุกครั้ง ผู้เล่นและทีมงานผู้ฝึกสอนระหว่างการเดินทางไปแข่งขัน ต้องรักษาระยะห่างทางสังคม การสัมภาษณ์หลังการแข่งขันต้องทำบนสนามและการแถลงข่าวต้องทำแบบออนไลน์[56]

ทีม

ทีมที่เข้าแข่งขันในฤดูกาลนี้มีทั้งหมด 20 ทีม โดยแบ่งเป็น 17 ทีมมาจากฤดูกาลก่อนหน้านี้และ 3 ทีมที่เลื่อนชั้นขึ้นมาจากอีเอฟแอลแชมเปียนชิป ทีมที่เลื่อนชั้น ได้แก่ นอริชซิตี, เชฟฟีลด์ยูไนเต็ดและแอสตันวิลลา นอริชซิตีและแอสตันวิลลา กลับมาแข่งขั้นในพรีเมียร์ลีกอีกครั้งหลังตกชั้นไปสามปี ขณะที่เชฟฟีลด์ยูไนเต็ดกลับมาหลังตกชั้นไปสิบสองปี โดยทั้งสามทีมแทนที่ คาร์ดิฟฟ์ซิตี, ฟูลัม (ทั้งสองทีมตกชั้นหลังแข่งขันในพรีเมียร์ลีกแค่หนึ่งฤดูกาล) และฮัดเดอส์ฟีลด์ทาวน์ (ตกชั้นหลังแข่งขันในพรีเมียร์ลีกแค่สองฤดูกาล) การตกชั้นของคาร์ดิฟฟ์ซิตีทำให้เป็นครั้งแรกตั้งแต่ฤดูกาล 2010–11 ที่ไม่มีทีมจากเวลส์เข้าแข่งขัน

สนามและที่ตั้ง

แม่แบบ:Location map+

แม่แบบ:Location map+

ทีม ที่ตั้ง สนาม ความจุ[57]
อาร์เซนอล ลอนดอน แม่แบบ:Small เอมิเรตส์สเตเดียม แม่แบบ:Nts
แอสตันวิลลา เบอร์มิงแฮม วิลลาพาร์ก แม่แบบ:Nts
บอร์นมัท บอร์นมัท ดีนคอร์ต แม่แบบ:Nts
ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน ไบรตัน อาแม็กซ์สเตเดียม แม่แบบ:Nts
เบิร์นลีย์ เบิร์นลีย์ เทิร์ฟมัวร์ แม่แบบ:Nts
เชลซี ลอนดอน แม่แบบ:Small สแตมฟอร์ดบริดจ์ แม่แบบ:Nts
คริสตัลพาเลซ ลอนดอน แม่แบบ:Small เซลเฮิสต์พาร์ก แม่แบบ:Nts
เอฟเวอร์ตัน ลิเวอร์พูล แม่แบบ:Small กูดิสันพาร์ก แม่แบบ:Nts
เลสเตอร์ซิตี เลสเตอร์ คิงเพาเวอร์สเตเดียม แม่แบบ:Nts
ลิเวอร์พูล ลิเวอร์พูล แม่แบบ:Small แอนฟีลด์ แม่แบบ:Nts
แมนเชสเตอร์ซิตี แมนเชสเตอร์ เอทิฮัดสเตเดียม แม่แบบ:Nts
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แมนเชสเตอร์ แม่แบบ:Small โอลด์แทรฟฟอร์ด แม่แบบ:Nts
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด นิวคาสเซิลอะพอนไทน์ เซนต์เจมส์พาร์ก แม่แบบ:Nts
นอริชซิตี นอริช แคร์โรว์โรด แม่แบบ:Nts
เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด เชฟฟีลด์ บรามอลล์เลน แม่แบบ:Nts
เซาแทมป์ตัน เซาแทมป์ตัน เซนต์แมรีส์สเตเดียม แม่แบบ:Nts
ทอตนัมฮอตสเปอร์ ลอนดอน แม่แบบ:Small ทอตนัมฮอตสเปอร์สเตเดียม แม่แบบ:Nts
วอตฟอร์ด วอตฟอร์ด วิคาริจโรด แม่แบบ:Nts
เวสต์แฮมยูไนเต็ด ลอนดอน แม่แบบ:Small ลอนดอนสเตเดียม แม่แบบ:Nts
วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ วุลเวอร์แฮมป์ตัน โมลีนิวส์ แม่แบบ:Nts

บุคลากรและชุดแข่งขัน

ทีม ผู้จัดการทีม กัปตัน ผู้ผลิตเสื้อ ผู้สนับสนุน (อก) ผู้สนับสนุน (แขนซ้าย)
อาร์เซนอล แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname อาดิดาส เอมิเรตส์[58] วิสิตรวันดา[59]
แอสตันวิลลา แม่แบบ:Flagicon ดีน สมิท แม่แบบ:Flagicon แจ็ก กรีลิช แคปปา[60] ดับบลิว88[61] บีอาร์88 [62]
บอร์นมัท แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname อัมโบร[63] เอ็ม88[64]
ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname ไนกี้[65] อเมริกันเอ็กซ์เพรส[65] เจดี[66]
เบิร์นลีย์ แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname อัมโบร เลิฟเบ็ต[67]
เชลซี แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname ไนกี้[68] โยโกฮามะไทรส์[69] ฮุนได[70]
คริสตัลพาเลซ แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname พูมา[71] แมนเบ็ตเอ็กซ์[72] Dongqiudi
เอฟเวอร์ตัน แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname อัมโบร[73] สปอร์ตเปซา[74] แอ็งกรีเบิดส์[75]
เลสเตอร์ซิตี แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname อาดิดาส[76] คิง เพาเวอร์[77] เบียร์ไซ่ง่อน[78]
ลิเวอร์พูล แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname นิวบาลานซ์[79] สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด[80] เวสเทิร์นยูเนียน[81]
แมนเชสเตอร์ซิตี แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname พูมา[82] เอทิฮัดแอร์เวส์[83] เน็กซ์เซนไทร[84]
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แม่แบบ:Flagicon อูเลอ กึนนาร์ ซูลชาร์ แม่แบบ:Flagicon แฮร์รี แมไกวร์[85] อาดิดาส[86] เชฟโรเลต[87] โคห์เลอร์[88]
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname พูมา[89] ฟัน88[90] รอประกาศ
นอริชซิตี แม่แบบ:Flagicon ดานีเอิล ฟาร์เคอ แม่แบบ:Flagicon แกรนต์ แฮนลีย์ เอร์เรอา ดาฟาเบท[91] เบสต์เฟรนส์[92]
เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด แม่แบบ:Flagicon คริส วิลเดอร์ แม่แบบ:Flagicon บิลลี ชาร์ป อาดิดาส ยูเนียนสแตนดาร์ดกรุป[93]
เซาแทมป์ตัน แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname อันเดอร์อาร์เมอร์[94] แอลดีสปอตส์[95] เวอร์จินมีเดีย[96]
ทอตนัมฮอตสเปอร์ แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname ไนกี้[97] เอไอเอ[98] ไม่มี
วอตฟอร์ด แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname (รักษาการ) แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname อาดิดาส[99] สปอตส์เบ็ตดอตไอโอ[100] บิตคอยน์[101]
เวสต์แฮมยูไนเต็ด แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname อัมโบร[102] เบ็ตเวย์[103] บาสเซ็ตแอนด์โกลด์[104]
วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ แม่แบบ:Flagicon นือนู เอสปีรีตู ซังตู แม่แบบ:Flagicon คอเนอร์ โคอาดี อาดิดาส[105] แมนเบ็ตเอ็กซ์[106] คอยน์ดีล[107]

การเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีม

ทีม ผู้จัดการที่ออก สาเหตุที่ออก วันที่ตำแหน่งว่าง อันดับในตารางคะแนน ผู้จัดการคนใหม่ วันที่ได้รับการแต่งตั้ง
ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน แม่แบบ:Flagicon คริส ฮิวตัน[108] ถูกไล่ออก 13 พฤษภาคม 2019 ก่อนฤดูกาล แม่แบบ:Flagicon แกรแฮม พอตเตอร์[109] 20 พฤษภาคม 2019
เชลซี แม่แบบ:Flagicon เมารีซีโอ ซาร์รี[110] เซ็นสัญญากับยูเวนตุส 16 มิถุนายน 2019 แม่แบบ:Flagicon แฟรงก์ แลมพาร์ด[111] 4 กรกฎาคม 2019
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด แม่แบบ:Flagicon ราฟาเอล เบนิเตซ[112] สิ้นสุดสัญญา 30 มิถุนายน 2019 แม่แบบ:Flagicon สตีฟ บรูซ 17 กรกฎาคม 2019
วอตฟอร์ด แม่แบบ:Flagicon ฆาบิ กราซิอา[113] ถูกไล่ออก 7 กันยายน 2019 อันดับที่ 20 แม่แบบ:Flagicon กิเก ซันเชซ โฟลเรส[113] 7 กันยายน 2019
ทอตนัมฮอตสเปอร์ แม่แบบ:Flagicon เมาริซิโอ โปเชติโน[114] 19 พฤศจิกายน 2019 อันดับที่ 14 แม่แบบ:Flagicon โชเซ มูรีนโย[115] 20 พฤศจิกายน 2019
อาร์เซนอล แม่แบบ:Flagicon อูไน เอเมรี[116] 29 พฤศจิกายน 2019 อันดับที่ 8 แม่แบบ:Flagicon มิเกล อาร์เตตา[117] 20 ธันวาคม 2019
วอตฟอร์ด แม่แบบ:Flagicon กิเก ซันเชซ โฟลเรส[118] 1 ธันวาคม 2019 อันดับที่ 20 แม่แบบ:Flagicon ไนเจล เพียร์สัน[119] 6 ธันวาคม 2019
เอฟเวอร์ตัน แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname[120] 5 ธันวาคม 2019 อันดับที่ 18 แม่แบบ:Flagicon การ์โล อันเชลอตตี[121] 21 ธันวาคม 2019
เวสต์แฮมยูไนเต็ด แม่แบบ:Flagicon มานูเอล เปเลกรินิ[122] 28 ธันวาคม 2019 อันดับที่ 17 แม่แบบ:Flagicon เดวิด มอยส์[123] 29 ธันวาคม 2019
วอตฟอร์ด แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname[124] 19 กรกฎาคม 2020 อันดับที่ 17 แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname (รักษาการ)[125] 19 กรกฎาคม 2020

ตารางคะแนน

แม่แบบ:ตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019–20

ผลการแข่งขัน

สคริปต์ผิดพลาด: ไม่มีมอดูล sports results

สถิติตลอดฤดูกาล

แม่แบบ:Updated

การทำประตู

ผู้ทำประตูสูงสุด

อันดับ ผู้เล่น สโมสร ประตู[126]
1 แม่แบบ:Flagicon เจมี วาร์ดี เลสเตอร์ซิตี 23
2 แม่แบบ:Flagicon ปีแยร์-แอเมอริก โอบาเมอย็องก์ อาร์เซนอล 22
แม่แบบ:Flagicon แดนนี อิงส์ เซาแทมป์ตัน
4 แม่แบบ:Flagicon ราฮีม สเตอร์ลิง แมนเชสเตอร์ซิตี 20
5 แม่แบบ:Flagicon มุฮัมมัด เศาะลาห์ ลิเวอร์พูล 19
6 แม่แบบ:Flagicon แฮร์รี เคน ทอตนัมฮอตสเปอร์ 18
แม่แบบ:Flagicon ซาดีโย มาเน ลิเวอร์พูล
8 แม่แบบ:Flagicon ราอุล ฆิเมเนซ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ 17
แม่แบบ:Flagicon อ็องตอนี มาร์ซียาล แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
แม่แบบ:Flagicon มาร์คัส แรชฟอร์ด แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

แฮท-ทริคส์

ผู้เล่น ทีม พบกับทีม ผล วันที่
แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname แมนเชสเตอร์ซิตี เวสต์แฮมยูไนเต็ด 5–0 (A)[127] แม่แบบ:Dts
แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname นอริชซิตี นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 3–1 (H)[128] แม่แบบ:Dts
แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname เชลซี วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ 5–2 (A)[129] แม่แบบ:Dts
แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname แมนเชสเตอร์ซิตี วอตฟอร์ด 8–0 (H)[130] แม่แบบ:Dts
แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname เลสเตอร์ซิตี เซาแทมป์ตัน 9–0 (A)[131] แม่แบบ:Dts
แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname
แม่แบบ:Flagicon แม่แบบ:Sortname เชลซี เบิร์นลีย์ 4–2 (A)[132] แม่แบบ:Dts
แม่แบบ:Flagicon เซร์ฆิโอ อาเกวโร แมนเชสเตอร์ซิตี แอสตันวิลลา 6–1 (A)[133] 12 มกราคม 2020
แม่แบบ:Flagicon อ็องตอนี มาร์ซียาล แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด 3–0 (H)[134] 24 มิถุนายน 2020
แม่แบบ:Flagicon มีชาอิล อันโตนีโอ4 เวสต์แฮมยูไนเต็ด นอริชซิตี 4–0 (A)[135] 11 กรกฎาคม 2020
แม่แบบ:Flagicon ราฮีม สเตอร์ลิง แมนเชสเตอร์ซิตี ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน 5–0 (A)[136] 11 กรกฎาคม 2020
หมายเหตุ

4 ผู้เล่นที่ทำ 4 ประตู; (H) – เหย้า ; (A) – เยือน

อันดับการผ่านบอล

อันดับ ผู้เล่น สโมสร การผ่านบอล[137]
1 แม่แบบ:Flagicon เกฟิน เดอ เบรยเนอ แมนเชสเตอร์ซิตี 20
2 แม่แบบ:Flagicon เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ลิเวอร์พูล 13
3 แม่แบบ:Flagicon แอนดรูว์ รอเบิร์ตสัน ลิเวอร์พูล 12
4 แม่แบบ:Flagicon มุฮัมมัด เศาะลาห์ ลิเวอร์พูล 10
แม่แบบ:Flagicon ดาบิด ซิลบา แมนเชสเตอร์ซิตี
แม่แบบ:Flagicon ซน ฮึง-มิน ทอตนัมฮอตสเปอร์
7 แม่แบบ:Flagicon ริยาฎ มะห์รัซ แมนเชสเตอร์ซิตี 9
แม่แบบ:Flagicon อาดามา ตราโอเร วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์
9 แม่แบบ:Flagicon ฮาร์วีย์ บาร์นส์ เลสเตอร์ซิตี 8
แม่แบบ:Flagicon โรแบร์ตู ฟีร์มีนู ลิเวอร์พูล

คลีนชีตส์

อันดับ ผู้เล่น สโมสร จำนวนคลีนชีตส์[138]
1 แม่แบบ:Flagicon แอแดร์ซง แมนเชสเตอร์ซิตี 16
2 แม่แบบ:Flagicon นิก โพป เบิร์นลีย์ 15
3 แม่แบบ:Flagicon อาลีซง ลิเวอร์พูล 13
แม่แบบ:Flagicon ดาบิด เด เฆอา แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
แม่แบบ:Flagicon ดีน เฮนเดอร์สัน เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด
แม่แบบ:Flagicon รุย ปาตรีซียู วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์
แม่แบบ:Flagicon แคสเปอร์ สไมเกิล เลสเตอร์ซิตี
8 แม่แบบ:Flagicon มาร์ติน ดูบรัฟกา นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 11
9 แม่แบบ:Flagicon บิเซนเต กวยตา คริสตัลพาเลซ 10
10 แม่แบบ:Flagicon เบน ฟอสเตอร์ วอตฟอร์ด 9
แม่แบบ:Flagicon จอร์แดน พิกฟอร์ด เอฟเวอร์ตัน
แม่แบบ:Flagicon แมทิว ไรอัน ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน

การคาดโทษ

ผู้เล่น

สโมสร

รางวัล

รางวัลประจำเดือน

เดือน ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำเดือน ผู้เล่นยอดเยื่ยมประจำเดือน ประตูยอดเยี่ยมประจำเดือน อ้างอิง
ผู้จัดการทีม สโมสร ผู้เล่น สโมสร ผู้เล่น สโมสร
สิงหาคม แม่แบบ:Flagicon เยือร์เกิน คล็อพ ลิเวอร์พูล แม่แบบ:Flagicon ตีมู ปุกกี นอริชซิตี แม่แบบ:Flagicon ฮาร์วีย์ บาร์นส์ เลสเตอร์ซิตี [143][144][145]
กันยายน แม่แบบ:Flagicon ปีแยร์-แอเมอริก โอบาเมอย็องก์ อาร์เซนอล แม่แบบ:Flagicon มุสซา เฌเนโป เซาแทมป์ตัน [146][147][148]
ตุลาคม แม่แบบ:Flagicon แฟรงก์ แลมพาร์ด เชลซี แม่แบบ:Flagicon เจมี วาร์ดี เลสเตอร์ซิตี แม่แบบ:Flagicon แมตตี ลองสตัฟฟ์ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด [149][150][151]
พฤศจิกายน แม่แบบ:Flagicon เยือร์เกิน คล็อพ ลิเวอร์พูล แม่แบบ:Flagicon ซาดีโย มาเน ลิเวอร์พูล แม่แบบ:Flagicon เกฟิน เดอ เบรยเนอ แมนเชสเตอร์ซิตี [152][153][154]
ธันวาคม แม่แบบ:Flagicon เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แม่แบบ:Flagicon ซน ฮึง-มิน ทอตนัมฮอตสเปอร์ [155][156][157]
มกราคม แม่แบบ:Flagicon เซร์ฆิโอ อาเกวโร แมนเชสเตอร์ซิตี แม่แบบ:Flagicon แอลีเรซอ แจฮอนแบฆช์ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน [158][159][160]
กุมภาพันธ์ แม่แบบ:Flagicon ชอน ไดช์ เบิร์นลีย์ แม่แบบ:Flagicon บรูนู ฟือร์นังดึช แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แม่แบบ:Flagicon มาเตจ วีดรา เบิร์นลีย์ [161][162][163]
มิถุนายน แม่แบบ:Flagicon นูนู อึชปีรีตู ซังตู วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ แม่แบบ:Flagicon บรูนู ฟือร์นังดึช แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด [164][165][166]

รางวัลส่วนบุคคล

รางวัล ผู้ชนะเลิศ สโมสร
นักฟุตบอลแห่งปีของสมาคมผู้สื่อข่าวฟุตบอล แม่แบบ:Flagicon จอร์แดน เฮนเดอร์สัน[167] ลิเวอร์พูล

อ้างอิง

แม่แบบ:รายการอ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

แม่แบบ:ทีมพรีเมียร์ลีก แม่แบบ:ฟุตบอลในประเทศอังกฤษฤดูกาล 2019–20 แม่แบบ:ฟุตบอลยุโรปในฤดูกาล 2019–20 (ยูฟ่า)

  1. Cite error: Invalid <ref> tag; no text was provided for refs named 05Apr
  2. แม่แบบ:Cite news
  3. แม่แบบ:Cite news
  4. แม่แบบ:Cite news
  5. แม่แบบ:Cite news
  6. แม่แบบ:Cite news
  7. แม่แบบ:Cite news
  8. แม่แบบ:Cite news
  9. แม่แบบ:Cite news
  10. แม่แบบ:Cite news
  11. แม่แบบ:Cite news
  12. แม่แบบ:Cite news
  13. แม่แบบ:Cite news
  14. แม่แบบ:Cite news
  15. แม่แบบ:Cite news
  16. แม่แบบ:Cite web
  17. แม่แบบ:Citeweb
  18. แม่แบบ:Cite web
  19. แม่แบบ:Cite web
  20. แม่แบบ:Citeweb
  21. แม่แบบ:Cite news
  22. แม่แบบ:Cite news
  23. แม่แบบ:Cite web
  24. แม่แบบ:Cite news
  25. แม่แบบ:Cite news
  26. แม่แบบ:Cite news
  27. แม่แบบ:Cite tweet
  28. แม่แบบ:Cite news
  29. แม่แบบ:Cite news
  30. แม่แบบ:Cite news
  31. แม่แบบ:Cite news
  32. แม่แบบ:Cite news
  33. แม่แบบ:Cite news
  34. แม่แบบ:Cite news
  35. แม่แบบ:Cite news
  36. แม่แบบ:Cite news
  37. แม่แบบ:Cite news
  38. แม่แบบ:Cite news
  39. แม่แบบ:Cite news
  40. แม่แบบ:Cite news
  41. แม่แบบ:Cite news
  42. แม่แบบ:Cite news
  43. แม่แบบ:Cite news
  44. แม่แบบ:Cite news
  45. แม่แบบ:Cite news
  46. แม่แบบ:Cite news
  47. แม่แบบ:Cite news
  48. แม่แบบ:Cite news
  49. แม่แบบ:Cite news
  50. แม่แบบ:Cite news
  51. แม่แบบ:Cite news
  52. แม่แบบ:Cite web
  53. แม่แบบ:Cite news
  54. แม่แบบ:Cite web
  55. แม่แบบ:Cite web
  56. แม่แบบ:Cite web
  57. แม่แบบ:Cite web
  58. แม่แบบ:Cite news
  59. แม่แบบ:Cite web
  60. แม่แบบ:Cite web
  61. แม่แบบ:Cite web
  62. https://www.avfc.co.uk/News/2019/06/13/new-official-sleeve-partner-announced
  63. แม่แบบ:Cite news
  64. แม่แบบ:Cite web
  65. 65.0 65.1 แม่แบบ:Cite web
  66. แม่แบบ:Cite web
  67. แม่แบบ:Cite web
  68. แม่แบบ:Cite web
  69. แม่แบบ:Cite news
  70. แม่แบบ:Cite web
  71. แม่แบบ:Cite web
  72. แม่แบบ:Cite web
  73. แม่แบบ:Cite news
  74. แม่แบบ:Cite news
  75. แม่แบบ:Cite web
  76. แม่แบบ:Cite news
  77. แม่แบบ:Cite web
  78. แม่แบบ:Cite news
  79. แม่แบบ:Cite news
  80. แม่แบบ:Cite news
  81. แม่แบบ:Cite web
  82. แม่แบบ:Cite web
  83. แม่แบบ:Cite news
  84. แม่แบบ:Cite news
  85. แม่แบบ:Cite news
  86. แม่แบบ:Cite news
  87. แม่แบบ:Cite news
  88. แม่แบบ:Cite news
  89. แม่แบบ:Cite web
  90. แม่แบบ:Cite web
  91. แม่แบบ:Cite web
  92. แม่แบบ:Cite web
  93. แม่แบบ:Cite web
  94. แม่แบบ:Cite web
  95. แม่แบบ:Cite web
  96. แม่แบบ:Cite web
  97. แม่แบบ:Cite web
  98. แม่แบบ:Cite web
  99. แม่แบบ:Cite web
  100. แม่แบบ:Cite web
  101. แม่แบบ:Cite web
  102. แม่แบบ:Cite web
  103. แม่แบบ:Cite web
  104. แม่แบบ:Cite web
  105. แม่แบบ:Cite web
  106. แม่แบบ:Cite web
  107. แม่แบบ:Cite web
  108. แม่แบบ:Cite web
  109. แม่แบบ:Cite web
  110. แม่แบบ:Cite web
  111. แม่แบบ:Cite news
  112. แม่แบบ:Cite web
  113. 113.0 113.1 แม่แบบ:Cite web
  114. ด่วน! สเปอร์สปลด ‘โปเช็ตติโน่’ พ้นกุนซือแล้วหลังทำรองแชมป์ยุโรปร่วงที่ 14 พรีเมียร์!
  115. แม่แบบ:Cite news
  116. แม่แบบ:Cite news
  117. แม่แบบ:Cite news
  118. แม่แบบ:Cite web
  119. แม่แบบ:Cite web
  120. แม่แบบ:Cite news
  121. แม่แบบ:Cite news
  122. แม่แบบ:Cite news
  123. แม่แบบ:Cite web
  124. แม่แบบ:Cite news
  125. แม่แบบ:Cite news
  126. แม่แบบ:Cite web
  127. แม่แบบ:Cite web
  128. แม่แบบ:Cite web
  129. แม่แบบ:Cite web
  130. แม่แบบ:Cite web
  131. แม่แบบ:Cite web
  132. แม่แบบ:Cite web
  133. แม่แบบ:Cite web
  134. แม่แบบ:Cite news
  135. แม่แบบ:Cite news
  136. แม่แบบ:Cite news
  137. แม่แบบ:Cite web
  138. แม่แบบ:Cite web
  139. แม่แบบ:Cite web
  140. แม่แบบ:Cite web
  141. แม่แบบ:Cite web
  142. แม่แบบ:Cite web
  143. แม่แบบ:Cite news
  144. แม่แบบ:Cite news
  145. แม่แบบ:Cite news
  146. แม่แบบ:Cite news
  147. แม่แบบ:Cite news
  148. แม่แบบ:Cite news
  149. แม่แบบ:Cite news
  150. แม่แบบ:Cite news
  151. แม่แบบ:Cite news
  152. แม่แบบ:Cite news
  153. แม่แบบ:Cite news
  154. แม่แบบ:Cite news
  155. แม่แบบ:Cite web
  156. แม่แบบ:Cite web
  157. แม่แบบ:Cite news
  158. แม่แบบ:Cite web
  159. แม่แบบ:Cite web
  160. แม่แบบ:Cite web
  161. แม่แบบ:Cite news
  162. แม่แบบ:Cite news
  163. แม่แบบ:Cite news
  164. แม่แบบ:Cite web
  165. แม่แบบ:Cite web
  166. แม่แบบ:Cite web
  167. แม่แบบ:Cite web


You are not allowed to post comments.